วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่3

วันจันทร์ที่25มกราคม2559 เวลา 10.30-12.30ห้อง224

เรียนเนื้อหาทฤษฏี  (วันจันทร์)

เรื่องสมองกับการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย


  • สมองของมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ซีก คือซีกซ้ายและซีกขวา 








สมองซีกขวา = ใช้ในการจินตนาการ ความจำ
สมองซีกขวา ควบคุมซีกซ้ายของร่างกาย (คนถนัดซ้าย)
อาชีพ = จำพวก ศิลปินต่างๆ Beethoven, Bach และ Mozart
(จะสังเกตเห็นได้ว่า คนถนัดซ้าย ความจำดีและเก่งทางด้านศิลปะหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง)

สมองซีกซ้าย = ใช้ในการตรรกะ เหตุผล
สมองซีกซ้าย ควบคุมซีกขวาของร่างกาย
อาชีพ =จำพวก นักวิทยาศาสตร์ Einstien, Newton, Bill Gates
การวัดระดับ IQ จะนิยมวัดที่ ส่วน สมองด้านซ้าย


  • การทำงานของสมอง



1. ประสาทรับความรู้สึก
ประสาทรับความรู้สึกมีหลายแบบ ได้แก่ ความรู้สึกสัมผัสเบา ๆ
2. การควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า การควบคุมการทำงานพื้นฐานของการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ในเด็กแรกคลอด จะเป็นไปอย่างไม่มีวัตถุประสงค์ เด็กอายุ 1-2 เดือนจะไม่ ไขว่คว้าของเล่น แต่ก็มีการเคลื่อนไหวของแขน ขา มือ และ เท้า ซึ่งสมองส่วนเซนซอรี่มอเตอร์คอร์เท็กซ์ สมองส่วนทาลามัส และ สมองส่วนเบซาลแกงเกลีย ที่มีเส้นใยประสาท และไขมันค่อนข้างครบถ้วน เมื่อแรกคลอดจะทำหน้าที่พื้นฐานนี้
3. การมองเห็น
สมองจะต้องอาศัยการมองเห็นภาพ ซึ่งจะนำไปสู่สมอง ด้วยเส้นประสาทตา
4. การได้ยิน
  เมื่อเด็กอายุประมาณ 1 ปี สมองมีการสร้างแผนที่การได้ยินอย่างสมบูรณ์ เช่น เสียงนี้เซลล์ประสาทส่วนนี้รับผิดชอบ อีกเสียงหนึ่ง เซลล์ประสาท อีกที่รับผิดชอบ เป็นต้น
5. สมองกับความฉลาด และความคิด
เราไม่สามารถบอกได้ว่า สมองส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือจุดใดจุดหนึ่ง มีหน้าที่เกี่ยวกับ ความฉลาด และความคิด แต่เชื่อกันว่า สมองส่วนใหม่ ที่เรียกว่า นีโอคอร์เท็กซ์ มีหน้าที่เกี่ยวกับ ความฉลาด และความคิด
6. ความจำ
7. การเรียนรู้ภาษา
ภาษาเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์ กล้ามเนื้อของเรามีการเคลื่อนไหวตอบสนองต่อเสียงแบบอัตโนมัติ ซึ่งเกิดขึ้น ตั้งแต่เป็นทารก ในครรภ์อายุประมาณ 7 เดือน และหลังคลอดสมองก็พร้อมที่จะทำงานได้ทันที
8. การสร้างบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพของแต่ละคน จะเป็นสิ่งประจำตัวของคนคนนั้น ที่ทำให้แตกต่างจากคนอื่น
9. ระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System)
ระบบประสาทอัตโนมัติ ประกอบด้วย ประสาท 2 ส่วน ที่เรียกว่า ซิมพาเทติก (Sympathetic) และ พาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อหัวใจ และต่อมต่าง ๆ ของร่างกาย


การนำมาประยุกต์ใช้
  • ใช้สมองซีกขวาในการจินตนาการ ความจำ
  • ใช้สมองซีกซ้าย ในการตรรกะ เหตุผล
  • อธิบายให้เด็กรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองแต่ละซีกว่ามีความเเตกต่างกันอย่างไร

การประเมินผล

ประเมินตนเอง

รู้ถึงคสามเเตกต่างของสมองทั้งสองซีก เข้าใจที่อาจารย์สอน ระหว่างที่ฟังอาจารย์อธิบายก็มีคุยบ้างเล็กน้อย

ประเมินเพื่อน

เพื่อนๆตั้งใจฟังที่อาจารย์ อาจจะมีคุยกันบ้างนิดหน่อย แต่งกายเรียบร้อยให้ความร่วมมือในการตอบคำถามดีมาก

ประเมินอาจารย์

อาจารย์วางแผนการสอนมาอย่างดีว่าในวิชานี้จะสอนอะไรทำให้กาารเรียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว สอนสนุกเข้าใจง่าย 



วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่2

วันจันทร์ที่18มกราคม2559  เวลา10.30-12.30ห้อง224
วันพฤหัสบดีที่21มกราคม2559 เวลา11.30-14.30ห้อง223

เรียนเนื้อหาทฤษฏี  (วันจันทร์)
เรื่องการจัดประสบการณ์เคลื่อนไหวและจังหวะสำหรับเด็กปฐมวัย
  • ความหมายและความสำคัญของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ คือจะจัดขึ้นเพื่อให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย
  • สัญญานหรือสัญลักษณ์ที่ใช้กำหนดความช้าความเร็วของการเคลื่อนไหวคือ  1เสียงจากคน เช่น การนับ การออกเสียงคำ 2เสียงจากเครื่องดนตรีเช่นการเคาะ 3การตบมือหรือดีดนิ้วเป็นจังหวะ
  • ความเป็นมาของการเคลื่อนไหวและจังหวะ จังหวะธรรมชาติ จังหวะที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ความสำคัญของการเคลื่อนไหวและจังหวะ มีความจำเป็นต่อมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปัจจุบัน ซึ่งเต็มไปด้วยการต่อสู้   และสามารถช่วยให่เด็กเรียนนในเรื่องดังนี้ 1เทคนิคเเละวิธีคิดค้น 2การเคลื่อนไหวของส่วนต่างๆ 3เรียนรู้เเละชอบ 4เข้าใจประโยชน์การเคลื่อนไหว 5พัฒนาการทางสรรค์ 6ขีดจำกัดความสามารถ

การเคลื่อนไหวพื้นฐาน มี 2 ประเภทคือ
1.การเคลื่อนไหวอยู่กับที่
2.การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่

  • องค์ประกอบของการเคลื่อนไหวและจังหวะ การรู้จักส่วนต่างๆของร่างกาย บริเวณเเละเนื้อที่
  • พัฒนาการด้านร่างกายเเละการเคลื่อนไหว
  • พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อใหญ่  
  • หลักการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ  พยายามใช้สิ่งของที่อยู่รอบตัวเด็ก เศษวัสดุ ผ้า เชือก  ครูควรกำหนดจังหวะ สัญญาณนัดหมาย
  • เนื้อหาการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ   การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ การเคลื่อนไหวประกอบจังหวะดนตรี
  • จุดประสงค์การจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ  เพื่อให้เด็กได้ออกกำลังกาย และฝึกวินัยให้เด็ก
  • บทบาทครูในการจัดกิจกรรม  สนับสนุนให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์  สร้างบรรยากาศให้เด็กมีความมั่นใจ
  • แนวทางการประเมิน   สังเกตการเคลื่อนไหวของเด็ก
เรียนปฏิบัติ (วันพฤหัสบดี)

  • เริ่มต้นจากการปั้มใบมาเรียน แล้วลิ้งค์บล้อคให้อาจารย์ 
  •  เต้นเพลงที่ตัวเองเตรียมมา ดิฉันได้เต้นเป็นคนแรก เพลงสาวเลยยังรอ ช่วงต้นเพลงมีอาการเขินอายนิดหน่อย เเต่พอสักพักก็ไม่มีความรู้สึกว่าอายเเล้ว กลับรู้สึกสนุกมาก ต่อไปก็ถึงคิวของเพื่อนคนต่อๆไปออกไปเต้นจนครบหมดทุกคน
  • หลังจากเต้นเสร็จแล้วครูก็พูดทบทวนเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนผ่านมาเมื่อวันจันทร์  แล้วก็พาบริหารสมอง
  • หลังจากนั้นครูก็พาทำการเคลื่อนไหวอยู่กับที่และการเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ ทำอยู่หลายรอบมากมีเหนื่อยบ้าง แต่สนุกมากกว่า 

การนำมาประยุกต์ใช้
  • นำไปสอนเด็กปฐมวัยในการเคลื่อนที่แบบอยู่กับที่และการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่
  • สอนเด็กในการหาพื้นที่ของตนเอง
  • สอนเด็กให้เดินในจังหวะที่กำหนด
การประเมินผล
ประเมินตนเอง
เข้าใจและรู้ถึงความหมายของการเคลื่อนที่เเละจังหวะ เต้นตามเพลงที่ตนเองหามาได้ ถึงแม้จะมีเขินอายบ้างในช่วงเเรก

ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆให้ความร่วมมือดีมากไม่ว่าจะเป็นการเต้น การเคลื่อนไหว ทำตามที่ครูบอก ตั้งใจฟังครู

ประเเมินอาจารย์
อาจารย์สอนเนื่อหาทฤษฏีได้เข้าใจ แต่งกายเรียบร้อย เป็นกันเอง ทำให้ไม่เครียดในการเรียน พูดจาไพเราะน่าฟัง สามารถเป็นตัวอย่างให้กับนักศึกษาได้เป๋นอย่างดี




วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่1

วันพฤหัสบดีที่14มกราคม2559 เวลา11.30-14.30 ห้อง223

  • วันนี้ครูแจกใบปั้มมาเรียนให้กับทุกๆคน หลังจากนั้นครูก็แจ้งเพิ่มเติมว่า มีครูมาช่วยสอนเพิ่มหนึ่งคน คือว่าที่ร้อยตรีกฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด จะสอนเกี่ยวกับทฤษฏี ในวันจันทร์ 
  • แจ้งเรื่องการเรียนในเทอมนี้
  • หลังจากนั่นก็ให้ฝึกสมอง/บริหารสมองก่อนการเรียนเพื่อกระตุ้นให้สอชื่น หลังจากที่บริหารสองแล้วก็เต้าเพลง T26 ของครูนก แล้วให้คิดท่ามาหนึ่งท่า  หลังจากเต้นกันจนเหนื่อยพอสมควรครูก็ให้พัก 15นาที แต่ระหว่างการพักครูเปิดวีดีโอเกี่ยวครูผู้มีแต่ให้  ให้ดูทำให้นักศึกษาหลายซึ่งจนเก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่ และต่อด้วยการเปิดวีดีโอตลกให้ดู เรียกได้ว่าการเรียนในวันนี้สนุก ครบรสเบย มีทั้งเสียงหัวเราะ ร้องไห้


การนำมาประยุกต์ใช้
  • สามารถนำท่าเต้นเหล่านี้ไปใช้กับเด็กอนุบาลได้จริงอีกทั้งยังนำไปใช้กับเด็กให้เด้กคิดท่าทางต่างๆตามที่เด็กอยากเต้นได้อีกด้วย
การประเมินผล

ประเมินตนเอง
สามารถเต้นตามที่อาจารย์บอกได้คิดท่าทางใหม่ๆได้ ตั้งใจทำในสิ่งที่อาจารย์บอก แต่งกายเหมาะสมกับวิขาที่เรียน

ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย ระหว่างที่อาจารย์สอนก็จะตั้งใจฟัง

ประเมินอาจารย์
อาจารย์แต่งกานสุภาพ พูดจาไพเราะน่าฟัง สอนสนุกเข้าใจนักศึกษา